ห้ามพลาด 9 เทคนิคเลือกแป้งคุมมันยังไงให้เหมาะกับสีผิว

ห้ามพลาด 9 เทคนิคเลือกแป้งคุมมันยังไงให้เหมาะกับสีผิว

ห้ามพลาด 9 เทคนิคเลือกแป้งคุมมันยังไงให้เหมาะกับสีผิว

ห้ามพลาด 9 เทคนิคเลือกแป้งคุมมันยังไงให้เหมาะกับสีผิว แอดมินเชื่อว่าคุณสาว ๆ ส่วนใหญ่มักใช้วิธีเลือกแป้งคุมมันที่แตกต่างกันไปบางทีก็เลือกที่สว่างกว่าสีผิวของตัวเอง หรือบางทีก็เลือกเพราะยี่ห้อหรือบางคนยังเลือกซื้อแป้งคุมมันตามเพื่อนอีกด้วยต่างหาก วันนี้แอดมินเลยมีทริคเล็ก ๆ ในการหาวิธีที่จะหยุดหน้าเทรนด์เทาหลีมามีใบหน้าที่สวยปัง และหันมาเลือกแป้งคุมมันที่เหมาะกับผิวของเราจริง ๆ ดีกว่าค่ะด้วยเทคนิคทั้ง 9 ที่ Lady Audrey ได้นำฝากในวันนี้ดีกว่าค่ะ

 

Undertone

Undertone

 

STEP แรกเช็ค Undertone คืออะไร

สีผิว Undertone คือ สีผิวจริง ๆ ของเรา โดยจะแสดงสีผิวของเราจากเม็ดสีเมลานินที่อยู่ใต้ชั้นผิวของเราอีกที ซึ่งมีวิธีสังเกตง่าย ๆ เพียงแค่ยกข้อมือของตนเองขึ้นมา แล้วดูที่เส้นเลือดเราว่าส่วนใหญ่เป็นสีอะไร ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 3 โทนสีด้วยกันค่ะ

  • Cool Skin       Undertone  หรือ สีผิวโทนเย็น เส้นเลือดจะเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน คือ คนผิวขาวออกชมพูผ่อง ๆ
  • Neutral Skin Undertone  หรือ สีผิวโทนกลาง เส้นเลือดจะก้ำกึ่งระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียว สีผิวจะไม่ออกเหลืองหรือชมพูชัดเจน
  • Warm Skin   Undertone  หรือ โทนสีอุ่น เส้นเลือดจะเป็นสีเขียว แบบนี้จะพบมาในสาวไทยและคนเอเชีย ซึ่งสีผิวจะออกเหลือง ๆ ค่ะ
  1. ประเภทสาวผิวขาว Light Skin สีผิวขาวหรือผิวขาวซีด

เป็นสีผิวที่มีความขาวที่สุด เฉดสีผิวอ่อนที่สุด ซึ่งหลาย ๆ คนมักเรียกว่าผิวขาวซีด เป็นโทนสีผิวแบบกลาง ๆ ไม่ได้เหลืองหรือออกชมพูเป็นพิเศษ ซึ่งบางคนที่ไม่แต่งหน้า แล้วหน้าซีดเป็นไก่ต้มให้คิดไว้ก่อนเลยว่า สีผิวของเพื่อน ๆ อาจอยู่ใน Type นี้ โทนสีผิวจะมีความกลาง ๆ ไม่ได้ออกชมพูหรือสีเหลืองเป็นพิเศษ

 

สาวผิวขาว Light Skin

สาวผิวขาว Light Skin

  • สีผิว Undertone Neutral หรือสีผิวโทนกลาง
  • เหมาะกับเครื่องประดับ เงิน ทองคำขาว แพลทินัม ทอง ทองเหลือง หรือสี Rose Gold
  • เปรียบได้กับ ขาวซีดแบบน้ำกะทิ
    สีผิวขาวชมพู

สาว ๆ คนไหนที่มีผิวขาวอมชมพูแบบว่า แก้มแดงระเรื่อ ๆ นั้น ขอบอกว่าโชดดีมาก ๆ ค่ะ เพราะเป็นสีผิวที่ไม่แต่งหน้ายังไงก็รอด เพราะเป็นสาว ๆ ที่ดูมีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา แต่สีผิวโทนนี้หาได้ยากมาก ๆ สำหรับสาวไทยอย่างเรา ๆ นะคะ โดยส่วนมากชาวตะวันตกจะมีสีผิวโทนนี้กัน

  • สีผิว Undertone Neutral หรือสีผิวโทนเย็น
  • เหมาะกับเครื่องประดับ เงิน ทองคำขาว และแพลทินัม
  • เปรียบได้กับ นมเย็นใส่น้ำแดงน้อย ๆ
ผิวขาวชมพู

ผิวขาวชมพู

 

 

        สีผิวขาวเหลือง

โทนสีขาวเหลืองจะเป็นสีผิวที่พบได้บ่อยมาก ๆ สำหรับสาวไทยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยเชื้อสายจีนจะมีสีผิวโทนนี้เสียเป็นส่วนใหญ่นะคะ โดยเป็นโทนอุ่น ๆ เหลือง ๆ แต่ไม่ถึงกับดีซ่าน

  • สีผิว Undertone Warm หรือสีผิวโทนอุ่น
  • เหมาะกับเครื่องประดับ ทอง ทองเหลือง หรือสี Rose Gold
  • เปรียบได้กับ น้ำเต้าหู้
ผิวขาวเหลือง

ผิวขาวเหลือง

2.ประเภทสาวผิวสองสี Medium Skin

  • สีผิวเบจชมพู

สาว ๆ ผิวสองสีแบบผิวเบจอมชมพู เป็นสีผิวที่มีสีแดง ๆ ชมพู ๆ เจือปนหน่อย ๆ ซึ่งเป็นสีผิวที่พบได้ยากสำหรับคนไทยเหมือนกันค่ะ เพราะเป็นสีโทนเย็น ๆ

  • สีผิว Undertone Cool หรือสีผิวโทนเย็น
  • เหมาะกับเครื่องประดับ เงิน ทองคำขาว แพลทินัม
  • เปรียบได้กับ น้ำชาพีชอมส้มชมพู
สีผิวเบจชมพู

สีผิวเบจชมพู

 

  • สีผิวเบจเหลือง

ใครที่มีสีผิวกลาง ๆ ออกเหลือง ๆ มีความนวลเนียนหน่อย ๆ เพื่อน ๆ จัดอยู่ในโทนผิวสีเบจเหลือง ซึ่งสีผิวนี้พบมากที่สุดในบ้านเรานะคะ เพราะสีผิวจะขาวก็ขาวไม่สุด แต่ก็ไม่ได้เข้มมากจนเกินไป

  • สีผิว Undertone Warm หรือสีผิวโทนอุ่น
  • เหมาะกับเครื่องประดับ ทอง ทองเหลือง หรือสี Rose Gold

เปรียบได้กับ นมข้าวโพดอุ่น ๆ

สีผิวเบจเหลือง

สีผิวเบจเหลือง

  • สีผิวเบจสองสี

สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวสีเบจสองสี เรียกได้ว่าเป็นสีผิวมาตรฐานของโลกเลยนะคะ ซึ่งเป็นผิวเข้มที่เกือบจะคล้ำ สีผิวออกชานม คือ ไม่ได้ออกเหลืองหรือชมพูไปเลย แต่เป็นโทนสีกลาง ๆ ที่ไม่ว่าจะแต่งหน้าโทนไหนก็รอดทั้งนั้น

  • สีผิว Undertone Neutral หรือสีผิวโทนกลาง ๆ
  • เหมาะกับเครื่องประดับ เงิน ทองคำขาว แพลทินัม ทอง ทองเหลือง หรือสี Rose Gold
  • เปรียบได้กับ ชานมไม่ใส่ไข่มุก
สีผิวเบจสองสี

สีผิวเบจสองสี

3.ประเภทสาวผิวแทน หรือผิวสีน้ำผึ้ง Deep Skin

  • สีผิวแทน

สาว ๆ ที่มีสีแทนหรือสีน้ำผึ้งนั้น โทนสีผิวจะมีความคล้ำปนเหลืองหน่อย ๆ เรียกได้ว่า เป็นสีผิวที่เหมือนสีของแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า มีความละมุน แต่เมื่อสะท้อนกับแสงแดดสีผิวจะสวยมาก ๆ ค่ะ

  • สีผิว Undertone Warm หรือสีผิวโทนอุ่น
  • เหมาะกับเครื่องประดับ ทอง ทองเหลือง หรือสี Rose Gold
  • เปรียบได้กับ กาแฟลาเต้อุ่น ๆ
สีผิวแทน

สีผิวแทน

  • สีผิวน้ำตาลไหม้

ผิวสีน้ำตาลไหม้นั้น จะมีสีผิวที่เข้มขึ้นมาหน่อย แต่ไม่ใช่โทนเหลือง เป็นสีผิวแบบไปออกทริปเที่ยวทะเลแล้วโดนแดดมานั้นเอง

  • สีผิว Undertone Neutral หรือสีผิวโทนกลาง ๆ
  • เหมาะกับเครื่องประดับ เงิน ทองคำขาว แพลทินัม ทอง ทองเหลือง หรือสี Rose Gold
  • เปรียบได้กับ นมช็อกโกแลต
สีผิวน้ำตาลไหม้

สีผิวน้ำตาลไหม้

  • สีผิวน้ำตาลเข้ม

เป็นโทนสีออกสีแทนหรือน้ำผึ้งเข้ม ๆ นะคะ ซึ่งสาว ๆ ที่มีผิวโทนนี้จะพบได้บ่อยมาก ๆ ในไทย โดยปกติแล้วคนที่มีผิวเข้มหน่อย ๆ ก็จะมีความออกแดง ๆ นิด ๆ

  • สีผิว Undertone Cool หรือสีผิวโทนเย็น
  • เหมาะกับเครื่องประดับ เงิน ทองคำขาว แพลทินัม
  • เปรียบได้กับ สีน้ำพะโล้
สีผิวน้ำตาลเข้ม

สีผิวน้ำตาลเข้ม

เมื่อเราทราบโทนสีผิวของเรา ทั้ง Undertone และ Skin tone กันไปแล้วนะคะ ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าจะมีทริกง่าย ๆ ในการเลือกแป้งคุมมันให้เหมาะกับสีผิวของเราอย่างไรบ้าง

4 ทริกง่าย ๆ เลือกแป้งคุมมันให้เหมาะกับสีผิวของเรา

  1. เช็ก Undertone และ Skin tone ทุกครั้ง

เราทราบกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าตัวเรานั้นมี Undertone และ Skin tone เป็นสีแบบไหนบ้าง ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อแป้งคุมมันทุกครั้ง อย่าลืมเลือกของสีแป้งคุมมันให้เหมาะสมกับสีผิวของเราที่สุด เพราะสีผิวของคนเรามีความแตกต่างกันดังนั้น เพื่อน ๆ จะเลือกสีแป้งคุมมันตามเพื่อนไม่ได้แล้วนะคะ

  1. สีแป้งคุมมันและสีรองพื้นต้องพอดีกัน

การเลือกสีรองพื้นให้เข้ากับสีของแป้งคุมมัน เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะจะทำให้สีผิวของเรามีความสม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้านั่นเอง

  1. ลองสีแป้งฝุ่นที่สันกราม

ห้ามลองสีแป้งคุมมันที่อื่นเด็ดขาด จะต้องลองสีแป้งคุมมันที่สันกรามเท่านั้น เพราะสีผิวบริเวณนี้จะเข้ากันทั้งใบหน้าและลำคอ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้หน้าเราไม่ลอยเป็นเทาหลีอีกด้วยนะคะ

  1. ลองแป้งจากแสงธรรมชาติและแสงนีออน

ในการทดลองแป้งคุมมันทั้งแสงจากธรรมชาติและไฟแสงนีออนนั้น จะทำให้เราเห็นว่าเมื่อทาแป้งคุมมันไปแล้วสีผิวของเราจะออกมาเป็นแบบไหนนั่นเอง

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเทคนิคการเลือกแป้งที่ Lady Audrey ได้นำมาฝากในครั้งนี้ หวังว่าจะช่วยให้เพื่อน ๆ รู้จักโทนสีผิวของตนเองมากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้กับการเลือกซื้อแป้งคุมมัน รวมถึงเครื่องสำอางอื่น ๆ ได้ไม่ยากเลยนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.wongnai.com/articles/101-skin-tone

และขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.fentybeauty.com