Lady Audrey แป้งเครื่องสำอางฝีมือคนไทย จาก “แป้งข้าว”

Lady Audrey แป้งเครื่องสำอางฝีมือคนไทย จาก “แป้งข้าว”

Lady Audrey แป้งเครื่องสำอางฝีมือคนไทย จาก “แป้งข้าว”

Lady Audrey แป้งเครื่องสำอางฝีมือคนไทย จาก “แป้งข้าว” ตลอด 10 ปี  ที่เนอเชอร์แคร์  สร้างฐานลูกค้าอย่างเหนียวแน่นในตลาดแป้งเด็ก ภายใต้แบรนด์ไร้ซแคร์ (ReisCare) ด้วยจุดเด่นที่ผลิตจากแป้งข้าวเนื้อละเอียด ปราศจากทัลคัม จึงไม่เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ ทำให้นอกจากกลุ่มเด็กแล้วยังมีบางส่วนที่ชื่นชอบ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายนำไปทาหน้า เป็นโอกาสในการขยายตลาดให้กว้างขึ้น และเพิ่มฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มไลน์โปรดักต์ในตลาดเครื่องสำอางที่มีขนาดใหญ่มากกว่าตลาดแป้งเด็กหลายเท่าตัว

คุณวาทิน วงศ์สุรไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนอเชอร์แคร์ จำกัด จึงได้แนะนำแบรนด์เลดี้ ออเดรย์ ( Lady Audrey) ในรูปแบบของตลับแป้งฝุ่น เข้ามาเจาะตลาดเครื่องสำอาง  ในปี 2557 เพื่อทดลองและศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในตลาดดังกล่าว รวมทั้งดูผลการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อตัวผลิตภัณฑ์ในเบื้องต้น

 

 

“ช่วงเริ่มต้นทำตลาด เรามองแค่ในมิติของคุณภาพสินค้า ซึ่งมั่นใจว่าเลดี้ ออเดรย์ สามารถตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการและมองหาจากแป้งฝุ่น โดยยังไม่ได้มองปัจจัยเสริมอื่นๆ ทั้งในเรื่องของบรรจุภัณฑ์  แพกเกจจิ้ง  โลโก้ สีสัน รวมทั้งการสร้างความแข็งแรงในเรื่องของ Brand Identity/Personality รวมทั้ง Positioning  ทำให้ยังมีปัญหาในหลายจุดที่ต้องกลับมาปรับปรุงแก้ไข จึงตัดสินใจรีแบรนด์เพื่อทำให้ทุกมิติของเลดี้ ออเดรย์ มีความสมบูรณ์มากที่สุด”

ความพึงพอใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเนื้อแป้งละเอียดและติดทนนาน และการควบคุมความมันได้ดี เป็นจุดแข็งของแบรนด์ที่เด่นชัดและลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด เป็นสิ่งที่ต้องโฟกัสและเก็บไว้ ขณะที่ปัญหาอื่นๆ ทั้งการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้แป้งร่วงหล่นขณะใช้ (เพราะความที่แป้งละเอียดมาก)  ลวดลาย  สีสัน รวมทั้งโลโก้ที่ดูเด็กเกินไป จึงจำเป็นต้องมีการปรับใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ สวยงาม น่าใช้ และเพิ่มความพรีเมียมให้สินค้ามากขึ้น ขณะที่ราคาจำหน่ายสามารถจับต้องได้ เทียบเท่ากลุ่ม Premium Mass และเพิ่มปริมาณบรรจุมากขึ้นเพื่อความคุ้มค่าอีกด้วย

 

เลดี้ ออเดรย์ โฉมใหม่ เริ่มแนะนำตัวในเดือนสิงหาคม 2560 นี้ พร้อมแผนการตลาด และแนวทางในการสื่อสารเต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของแบรนด์และรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดโดยเน้นสื่อออนไลน์เป็นหลัก ทั้งการให้ข้อมูล การทำโปรโมชั่น หรือเล่นเกมต่างๆ เพื่อแจกสินค้าตัวอย่างให้ลูกค้ามีโอกาสได้ทดลองใช้ผ่านเว็บไซต์ และเฟสบุ้ก

“เราให้ความสำคัญกับรายละเอียดทุกจุด ตั้งแต่ส่วนผสมหลักที่มาจากแป้งข้าวอาร์ไมเซล (R-Micelle) เทคโนโลยีจากการค้นคว้าวิจัยของเนอเชอร์แคร์จนได้รับสิทธิบัตรจากอเมริกาและยุโรป ทำให้ได้เนื้อแป้งอณูเล็กละเอียด มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะผิว ดูดซับความมันได้ดี มีคุณสมบัติป้องกันความชื้นและควบคุมความมัน ทำให้แป้งติดทนนาน แต่มีความบางเบาดูเป็นธรรมชาติ หน้าจึงกระจ่างใสตลอดวัน ไม่เกิดการอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของสิว รวมถึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงสามารถใช้ได้กับทุกวัย”

 

 

องค์ประกอบอื่นๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาจะเน้นสิ่งที่ทำให้สินค้ามีความเป็นพรีเมียม ทั้งตลับแป้ง สีสัน  โลโก้ และแพกเกจจิ้ง รวมทั้งมีการวางกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ในกลุ่มอายุ  22 – 30 ปี หรือกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงาน ที่มีไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย รวมทั้งการทำความเข้าใจและศึกษาความต้องการของผู้บริโภคเพื่อมาต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการมีโปรดักต์แป้งทั้งแบบแป้งฝุ่นและแป้งอัดแข็ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการใช้ได้มากขึ้น เพราะจากการศึกษาข้อมูลพบว่า ผู้หญิงที่แต่งหน้าจะนิยมใช้แป้งแบบอัดแข็งมากกว่าแป้งฝุ่นถึง 1 ใน 10

สำหรับชื่อแบรนด์เลดี้ ออเดรย์ (Lady Audrey)  ยังสะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงยุคใหม่ที่ใส่ใจดูแลตัวเอง ชอบความสวยงาม แต่ก็จริงจังกับการทำงาน และมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในแต่ละวัน  ฉลาดเลือก สนใจข่าวสารและข้อมูลต่างๆ เพื่อมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่เสมอ โดยจะทำการสื่อสาร Lady Audrey ออกไปพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่พ้องกับชื่อแบรนด์คือ Ready All Day สื่อถึงความพร้อมเสมอตลอดทั้งวัน เพื่อตอกย้ำคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

“บริษัทเตรียมงบการตลาดเบื้องต้นไว้  10 ล้านบาท เน้นการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง โดยมีคลิปวีดีโอเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ไปสู่ลูกค้า  ขณะที่ช่องทางกระจายสินค้าจะวางขายผ่าน Beauty Store ชั้นนำ อาทิ อีฟแอนด์บอย, บิวเทรียม, บิวตี้มาร์เก็ต,  บิวตี้แมกซ์สโตร์, แลชเชส และจะมีการเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมอย่างต่อเนื่องมากขึ้น  รวมทั้งการเปิดรับตัวแทนจำหน่ายคาดว่าจะมีจำนวน 200-300 คน ในปีแรกและจะมีปริมาณเพิ่มในปีต่อๆ ไป  โดยวางเป้าหมายยอดขายที่สิ้นปี 2561 ไว้ประมาณ 30-40 ล้านบาท”

 

รวมทั้งมีแผนขยายโอกาสทางธุรกิจจากการนำนวัตกรรมแป้งข้าว R-Micelle ที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการควบคุมความมัน และมีความปลอดภัยสูง ด้วยการเป็นผู้จัดส่งวัตถุดิบให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางทุกราย ทั้งในกลุ่ม แป้ง  เมคอัพ รองพื้น รวมทั้งครีมและโลชั่น นอกจากนี้แผนในอนาคตของแบรนด์เลดี้ ออเดรย์  จะเพิ่มไลน์โปรดักต์ ทั้งในกลุ่มรองพื้นและเมคอัพ เพื่อให้ภาพ Cosmetic Brand ของเลดี้ ออเดรย์มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

 

Source: https://www.brandbuffet.in.th/2017/08/lady-audrey-contol-oily-by-reiscare/